การเลี้ยงดูเด็กในสถานสงเคราะห์

        รับผิดชอบอบรมเลี้ยงดูเด็กของมูลนิธิฯ  วัยแรกเกิด – 7  ปี  จำนวนประมาณ  50  คน  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย  ทั้งร่างกาย  จิตใจ  อารมณ์สังคม  สติปัญญา   มีคุณธรรมจริยธรรม  ตลอดจนได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย  มีคุณภาพชีวิตที่ดี  พร้อมที่จะไปอยู่กับครอบครัวที่รับเด็กไปอุปการะอย่างมีความสุข  โดยแบ่งการเลี้ยงดูเด็กออกเป็น  3  กลุ่ม  ตามอายุและพัฒนาการของเด็ก  กรณีมีเด็กที่มีปัญหาสุขภาพจะได้รับการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดจากกุมารแพทย์และพยาบาล 

   

 

 

 

 

 

 

           เนื่องจากสถานสงเคราะห์ของมูลนิธิฯ ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย  ทำงานใกล้ชิดกับแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีอาจารย์แพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  ดังนั้นในระยะกว่า  10  ปี ที่ผ่านมา  สถานสงเคราะห์ของมูลนิธิฯ จึงได้รับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพซับซ้อนจากสถานสงเคราะห์เด็กของกรมกิจการเด็กและเยาวชน  ตามที่ได้รับคำขอจากสถานสงเคราะห์นั้นๆ  มาดูแลรักษาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้ต้องรับเลี้ยงดูเด็กจำนวนมากกว่า  50  ราย อยู่เนืองๆ นอกจากนี้ทั้งพยาบาลและพี่เลี้ยงผู้ดูแลเด็กของมูลนิธิฯ ยังได้มีการพัฒนาทักษะการดูแลเด็กเจ็บป่วยเหล่านี้มากขึ้น  เช่น การพ่นฝอยละอองยา  การให้ออกซิเจนต่อเนื่อง  (home  respiratory care)  การดูดเสมหะ  การระบายเสมหะ การใช้เครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กที่มีปัญหาโรคปอดเรื้อรัง  การให้อาหารทางสายหน้าท้อง  (gastrostomy tube)  การดูแลเด็กโรคหัวใจ  ฯลฯ  ซึ่งทักษะต่างๆ เหล่านี้อาจทำไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานสงเคราะห์อื่น 

       จึงนับเป็นการช่วยเหลือหน่วยงานอื่นที่ไม่มีความพร้อม  และช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ให้หายจากโรค  มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  พร้อมที่จะมอบให้ครอบครัวเดิมหรือครอบครัวบุญธรรมต่อไปได้ ที่ผ่านมาสถานสงเคราะห์ให้การดูแลรักษา  และฟื้นฟูสุขภาพเด็กที่มีปัญหาดังกล่าว  จนกระทั่งมีผู้รับไปอุปการะและได้เติบโตอย่างมีความสุข  มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเป็นจำนวนมากกว่า 100 ราย

 

        

 

 

       

 

 

       ในการพัฒนาเด็กเล็ก  นอกจากการรักษาฟื้นฟูส่งเสริมสุขภาพทางกายแล้ว  มูลนิธิฯ ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการตามวัย  ส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้ในด้านต่างๆ ตามวัย  และศักยภาพของเด็กแต่ละราย  รวมทั้งเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณี  ให้ได้รับการศึกษาในโรงเรียนในกรณีที่อายุถึงเกณฑ์แล้วยังไม่ได้ไปอยู่กับครอบครัวผู้ให้กำเนิดหรือครอบครัวบุญธรรม ให้เด็กได้ไปทัศนศึกษา ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมที่เหมาะสม เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ทั้งนี้เป็นการเตรียมพร้อมให้เด็กเติบโตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี  พร้อมที่จะเป็นสมาชิกที่ดีและมีคุณค่าของครอบครัวและสังคมต่อไป