ศูนย์พัฒนาและเลี้ยงเด็กเฉลิมพระเกียรติ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย
มูลนิธิฯ จัดตั้งศูนย์พัฒนาและเลี้ยงเด็กเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2539 เพื่อเป็นสวัสดิการสำหรับบุคลากรของสภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยรับเลี้ยงดูบุตรของบุคลากรในเวลากลางวัน ขณะที่บิดามารดามาปฏิบัติงาน เพื่อคลายความวิตกกังวลของบิดามารดาในเรื่องการเลี้ยงดูบุตรของตนเองในเวลาปฏิบัติงาน รับเลี้ยงเด็กอายุตั้งแต่ 3 เดือนถึง 4 ปี โดยมีการดำเนินงานอบรมเลี้ยงดูและจัดประสบการณ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ด้วยการบูรณาการผ่านการเล่น ให้เด็กลงมือปฎิบัติและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยคำนึงถึงพัฒนาการและความแตกต่างระหว่างบุคคล มุ่งเน้นให้เด็กมีสุขภาพดี มีความสุข มีวินัยในตนเอง และมีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย ด้วยความรัก ความเอื้ออาทรและเอาใจใส่ของผู้ดูแล
อัตลักษณ์ ของเด็ก **สุขภาพดี มีความสุข**
เอกลักษณ์ ของศูนย์ฯ **อบอุ่น ปลอดภัย ใส่ใจพัฒนาการ สานสร้างคุณธรรม**
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้การเลี้ยงดูบุตรของเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทยและคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเวลากลางวัน อายุตั้งแต่ 3 เดือน – 4 ปี
2.เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโต และพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยทุกด้านตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจสังคม สติปัญญา และมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างเหมาะสม และเตรียมพร้อมก่อนเข้าเรียนในสถานศึกษาต่อไปในอนาคต
1.การดำเนินงานด้านการเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการ
1.1 รับฝากเลี้ยงดูบุตรธิดา ของบุคลากรสภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 80 คน/เดือน โดยเก็บค่าเลี้ยงดูเด็กแบบเหมาจ่ายต่อเดือน ดังนี้
เด็กอายุ 3 เดือน – 1 ปี จำนวน 2,200 บาท
เด็กอายุ 1 ปี – 2 ปี จำนวน 1,900 บาท
เด็กอายุ 2 ปี – 4 ปี จำนวน 1,700 บาท
เด็กห้องเตรียมความพร้อมระดับอนุบาล จำนวน 2,000 บาท
สำหรับบุคคลภายนอก มีอัตราค่าบริการรายเดือน ดังนี้
เด็กอายุ 3 เดือน –1 ปี จำนวน 3,300 บาท
เด็กอายุ 1 ปี – 2 ปี จำนวน 2,850 บาท
เด็กอายุ 2 ปี – 4 ปี จำนวน 2,550 บาท
เด็กห้องเตรียมความพร้อมระดับอนุบาล จำนวน 3,000 บาท
หมายเหตุ– กรณีที่ผู้ปกครองนำเด็กมาฝากเลี้ยงที่ศูนย์ฯ ไม่ครบตามเวลาที่กำหนด ผู้ปกครองต้องชำระเงินค่าบริการเลี้ยงดูเด็กเต็มจำนวนตามที่ศูนย์ฯ กำหนด เนื่องจากเป็นค่าบริการแบบเหมาจ่ายต่อเดือน
1.2 การประเมินสุขภาพและพัฒนาการเด็ก
– ตรวจประเมินสุขภาพและพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กทุกราย โดยใช้แบบประเมินที่ประยุกต์มาจากแบบประเมินสุขภาพเด็กของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และของสาขาวิชาพัฒนาการและการเจริญเติบโต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-จัดทำสมุดรายงานด้านสุขภาพและพัฒนาการประจำตัวเด็กทุกราย และรายงานให้ผู้ปกครองทราบและให้คำแนะนำผู้ปกครองในรายที่มีปัญหา
1.3 การส่งเสริมทักษะด้านต่างๆ ของเด็ก
– จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาทักษะ ด้านร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม และความคิดสร้างสรรค์
– จัดมุมการเรียนรู้ให้เด็กเลือกทำกิจกรรม ได้ตามความสนใจของตนเอง เช่น มุมหนังสือ มุมศิลปะ มุมวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
– จัดกิจกรรมที่สอดแทรกศิลปวัฒนธรรมไทย วันสำคัญหรือเทศกาลต่างๆ โดยให้เด็กมีส่วนร่วมตามวัย เช่น มรรยาทไทย ไหว้พระ สวดมนต์ เคารพธงชาติ เทศกาลวันสงกรานต์ วันพ่อและวันแม่ เป็นต้น
1.4 การให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูและพัฒนาการเด็ก
– จัดทำบอร์ดประชาสัมพันธ์ ภายในและภายนอกอาคาร ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการให้ผู้ปกครองทราบ
– จัดทำจดหมายข่าวประจำเดือน แจ้งให้ผู้ปกครองให้ทราบในกลุ่มไลน์
1.5 โครงการรับเลี้ยงดูเด็กในช่วงปิดภาคเรียน
– ดำเนินงานปีละ 2 ครั้ง จัดให้มีค่ายภาคฤดูร้อน (มี.ค.- พ.ค.) และค่ายช่วงปิดภาคเรียนกลางปี (ต.ค.) ของทุกปี สำหรับเด็กที่เคยฝากเลี้ยงดูที่ศูนย์ฯ มาก่อน เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ระหว่างปิดภาคเรียน และคลายความกังวลของบิดามารดา
1.6 ส่งเสริมโภชนาการเด็ก จัดอาหารเสริมพิเศษให้มีความหลากหลายพร้อมคุณค่าทางโภชนาการ เพิ่มจากอาหารประจำวัน สัปดาห์ละ 2 วัน ในวันอังคารและวันพฤหัสบดีทุกสัปดาห์
1.7 เพิ่มพูนทักษะพื้นฐานเพื่อให้เด็กมีความพร้อมในการเข้าศึกษาในระดับต่อไป
– จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
– จัดทำแผนการสอน และหน่วยการเรียนรู้
– จัดทำศูนย์การเรียนรู้เพื่อเสริมประสบการณ์ด้านพัฒนาการ
2.แผนงานด้านสภาพแวดล้อมและความปลอดภัย
2.1 ตรวจคัดกรองสุขภาพเด็กทุกรายก่อนรับเข้าศูนย์ฯ ประจำทุกวัน และหากเด็กมีไข้สูงตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือเจ็บป่วยเป็นโรคที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ ให้งดนำเด็กมาฝากเลี้ยงที่ศูนย์ฯ
2.2 กำจัดแหล่งพาหะของโรค เช่น ยุง ฯลฯ
2.3 จัดให้บุคลากรของศูนย์ฯ ทุกคน ได้รับการตรวจสุขภาพทุกปี (ปีละ 1 ครั้ง)
2.4 ตรวจสอบสภาพบำรุงรักษาอาคาร และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพปลอดภัยพร้อมใช้งานรวมทั้งบันไดหนีไฟและอุปกรณ์ดับเพลิงเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ
3.ด้านบริหารจัดการ
3.1 ส่งเสริมความร่วมมือของผู้ปกครองในการดำเนินงานของศูนย์ฯ
– ปฐมนิเทศผู้ปกครองเมื่อแรกรับเด็กเข้าศูนย์ฯ ทุกคน เพื่อชี้แจงระเบียบปฏิบัติของศูนย์ฯ และเมื่อเด็กมีปัญหาเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
– จัดประชุมผู้ปกครองประจำปี เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างบุคลากรของศูนย์ฯ และแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครอง ปีละ 1 ครั้ง
– มีผู้แทนผู้ปกครองร่วมเป็นกรรมการบริหารและดำเนินงานของศูนย์ฯ
3.2 พัฒนาและปรับปรุงการบริหารงานศูนย์ฯ
– จัดทำแผนดำเนินงานของศูนย์ฯ และงบประมาณรายปี จัดทำสถิติ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
– ประชุมคณะกรรมการบริหารและดำเนินงานของศูนย์ฯ ทุก 3 เดือน หรือวาระพิเศษในกรณีที่มีปัญหาเร่งด่วน เพื่อกำกับดูแลให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
4.ด้านบุคลากร
– ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรม สัมมนาหรือศึกษาดูงานในส่วนที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
5.ด้านการบริการวิชาการแก่สังคม
5.1 จัดโครงการอบรมผู้ดูแลเด็กปฐมวัย 0-6 ปี และโครงการฝึกอบรมการกู้ชีวิตเด็กเบื้องต้นสำหรับพี่เลี้ยงเด็กและบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก ปีละ 1 ครั้ง โดยได้รับความร่วมมือจากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิราสภากาชาดไทย และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
5.2 เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงาน และฝึกงานเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กและพัฒนาการเด็กสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา จากสถาบันต่างๆ